คลื่นเสียงบำบัดจากขันทิเบต เยียวยาร่างกายและจิตใจอย่างไร

ในร่างกายมนุษย์นั้นมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างพลังธรรมชาติ จิตวิญญาณและพลังเหนือธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้อำนาจของสมาธิ

ศาสตร์บำบัดที่มีชื่อว่า “ขันทิเบต คลื่นเสียงบำบัด (Tibetan Singing Bowl)” เป็นการนำหลักการดังกล่าวมาใช้ประโยชน์เพื่อบำบัดโรค

คลื่นเสียงบำบัดจากขันทิเบต(Tibetan Singing Bowl) จัดเป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกของ Energy Medicines โดยใช้พลังงานจากคลื่นเสียงและความสั่นสะเทือนจากขัน

หลักการทำงานของกระบวนการนี้คือ คลื่นเสียงของขันทิเบตจะเป็นตัวปรับคลื่นสมองให้สงบอยู่ในระดับ Alpha Wave ที่ทำให้จิตใจสงบ รู้ตื่น (อุปจารสมาธิ) และ Theta Wave ก่อให้เกิดความปีติสุข (อัปนาสมาธิ)

ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อพลังงานชีวิต (Life Energy) ในร่างกายและเป็นการปรับแก้ไขจุดจักระที่ไม่สมดุลของ ส่งผลให้เกิดพลังกายทิพย์หรือออร่าที่ทำให้ภูมิชีวิตแข็งแรงและมีความสุข

จากการวิจัยของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ สหรัฐอเมริกา พบว่าการบำบัดด้วยคลื่นเสียงนี้สามารถช่วยลดอาการปวดหลัง โรคเครียด ซึมเศร้าจากการประสบเหตุการณ์ร้ายแรง โรคการนอนไม่หลับและโรคอื่นๆ ให้มีอาการดีขึ้นส่งผลให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถลดปริมาณการใช้ยาให้น้อยลงได้

โดยวิธีบำบัดดังกล่าวนี้ ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยการจับไม้วนไปรอบขัน ตามเข็มนาฬิกา พร้อมตั้งจิตให้เป็นสมาธิ คลื่นเสียงที่ดังกังวานออกมา จะทำให้จิตสงบและเข้าถึงสมาธิได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับเวลาในการบำบัดที่เหมาะสมต่อครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 นาที หรือทำร่วมกับการสวดมนต์ 1 บท โดยในทางการแพทย์เราเรียกการบำบัดควบคู่ระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกว่า Complimentary Medicine ซึ่งเป็นการแพทย์แบบเติมเต็มซึ่งกันและกัน

ในส่วนของการปรับแก้ไขจุดจักระที่ไม่สมดุลของร่างกายนั้น ตามปกติในร่างกายคนเราจะประกอบไปด้วยจักระทั้งหมด 7 จุด โดยร่างกายมนุษย์ทุกคนจะมีพลังในตัวเอง ซึ่งในการใช้ชีวิตแต่ละวันพลังชีวิตอาจลดน้อยลงตามปัจจัยแวดล้อมต่างๆ

ดังนั้น เราจึงควรหมั่นเติมพลังงานชีวิตให้เต็มและเติมเต็มแต่ละจักระที่ขาดไปให้ทั้ง 7 จักระสามารถขับเคลื่อนไปได้ดี ให้พลังกายดี โดยเสียงที่ดังกังวานออกมาจากขันทิเบต จะถูกแบ่งเป็นตัวโน้ต ในแต่ละตัวโน้ตจะเป็นคลื่นเสียงที่เข้าไปบำบัดจักระนั้นๆ โดยจักระทั้ง 7 จะประกอบไปด้วย

จักระที่ 1 ตั้งอยู่ระหว่างอวัยวะสืบพันธุ์กับทวารหนัก เป็นพื้นฐานของพลังชีวิต โดยปกติแล้วจักระนี้จะไม่มีการกระตุ้นอย่างเด็ดขาด เพราะอันตรายต่อระบบการทำงานของร่างกาย สีที่สัมพันธ์คือ สีแดง และโน้ตเสียงในการใช้ในกระบวนการขันทิเบต...คลื่นเสียงบำบัด คือโน้ตตัว โด

จักระที่ 2 ตั้งอยู่ที่บริเวณปลายกระดูกสันหลังใต้ก้นกบ จักระนี้เป็นศูนย์กลางเกี่ยวกับพลังงานทางเพศและความเชื่อมั่นในตนเอง ต่อมที่สัมพันธ์กับจักระนี้คือ ต่อมสืบพันธุ์ (Gonads Gland) สีที่สัมพันธ์คือ สีส้ม และโน้ตเสียงในการบำบัด คือโน้ตตัว เร

จักระที่ 3 ตั้งอยู่บริเวณสันหลังที่ตรงกับบั้นเอว มีความเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารทั้งหมด รวมถึงการผลิตโลหิต ทั้งยังเป็นศูนย์กลางของอารมณ์ดิบ ต่อมที่สัมพันธ์กับจักระนี้คือ ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) สีที่สัมพันธ์คือ สีเหลืองและโน้ตเสียง คือโน้ตตัว มี

จักระที่ 4 ตั้งอยู่กลางกระดูกสันหลังระดับที่ตรงกับหัวใจ เป็นศูนย์รวมของความรัก ความเมตตากรุณา ความเสียสละและการพัฒนาจิตใจ ต่อมที่สัมพันธ์กับจักระนี้คือ ต่อมไธมัส (Thymus Gland) สีที่สัมพันธ์คือ สีเขียว และโน้ตเสียง คือโน้ตตัว ฟา

จักระที่ 5 ตั้งอยู่ตรงกระดูกต้นคอ เป็นจักระที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ หอบหืด โรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง ต่อมที่สัมพันธ์กับจักระนี้คือ ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) สีที่สัมพันธ์คือ สีฟ้า และโน้ตเสียงที่ใช้ในการบำบัด คือโน้ตตัว ซอล

จักระที่ 6 ตั้งอยู่กึ่งกลางหน้าผาก เป็นจักระที่เปรียบเหมือนดวงตาของปัญญา เป็นจุดกำเนิดของญาณหยั่งรู้ หรือเรียกว่าเป็นดวงตาที่ 3 ต่อมที่สัมพันธ์กับจักระนี้คือ ต่อมไพเนียล แกลน สีที่สัมพันธ์คือ สีคราม และโน้ตเสียงสำหรับการใช้คลื่นเสียงบำบัด คือโน้ตตัว ลา

จักระที่ 7 ตั้งอยู่กลางกระหม่อม เป็นศูนย์ควบคุมทุกจักระในร่างกาย เป็นสถานที่รับพลังแห่งจักรวาลและกระจายต่อไปทั่วร่างกาย สีที่สัมพันธ์คือ สีม่วง และโน้ตเสียง คือโน้ตตัว ที

คลื่นเสียงบำบัดจากขันทิเบต(Tibetan Singing Bowl) นับว่าเป็นอีกหนึ่งแพทย์ทางเลือกที่มีความน่าสนใจมาก สิ่งที่ได้รับนอกไปจากสุขภาพที่ดี นั่นคือจิตที่สงบและเป็นสมาธิ เรียกได้ว่าเป็นการบำบัดทั้งพลังทางกาย และเติมเต็มพลังทางใจ